เปิดกลยุทธ์ธุรกิจสำเร็จด้วย FengShui Strategy ผู้ช่วยนักธุรกิจ “จับจังหวะที่ใช่” พลิกโอกาสสร้างเงิน
fengshuiX เปิดกลยุทธ์สร้างโอกาสทุกจังหวะชีวิตจาก ‘ศาสตร์จีนโบราณ’ (Feng Shui Strategy) แนะเคล็ดลับวิเคราะห์ธาตุทั้ง 5 ในธุรกิจ นำทางสู่การเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และทิศทางการพัฒนาที่ใช่เพื่อการบริหาร “องค์กร-คน’ พลิกความสำเร็จจากร้อยสู่ล้านช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปีนี้ก่อนใคร
นายรวิ อัญญากาญจน์ Founder Heaven Plan ที่ปรึกษาด้านโหราศาสตร์จีน เจ้าของเว็บไซต์ fengshuiX.com และ เพจ fengshuiX เปิดเผยว่า ศาสตร์จีนโบราณ (Chinese Metaphysics) เป็นการศึกษาเกี่ยวกับความแตกต่างหลากหลายของพลังงานในธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ให้เกิดความสุขและความสมบูรณ์แก่ชีวิต ซึ่งเป็นความรู้ที่ได้รับการยอมรับและมีการนำมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคม การศึกษาและนำศาสตร์นี้มาปรับใช้ทำให้ทุกคนวิเคราะห์และคาดการณ์สถานการณ์ได้ว่าเมื่อไหร่ควรก้าว และเมื่อไหร่ควรถอย
“การทำความเข้าใจกับ ยุค 9 ก็มีความสำคัญต่อทั้งการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจ โดยในยุค 9 นี้ เริ่มตั้งแต่ปี 2024-2043 ในทางศาสตร์จีนโบราณที่ทุก 20 ปีจะผลัดเปลี่ยนขึ้นสู่ยุคใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน โดยในปีนี้เป็นก้าวแรกของยุคแห่งไฟ ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคม รวมทั้งเกิดโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล” นายรวิ กล่าว
ยุคใหม่ของชีวิตและธุรกิจ
การก้าวเข้าสู่ยุค 9 อย่างเข้าใจ และนำหลักคิดของศาสตร์จีนโบราณ เริ่มที่การทำความเข้าใจกับ ธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ไม้ ไฟ ดิน ทอง น้ำ
นายรวิ กล่าวว่า ถ้าหลักการตลาดจะพูดถึง 5 ปัจจัย (Five Forces Model) ที่ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์คู่แข่ง และสภาพการแข่งขันในตลาด ได้แก่ การแข่งขันกันภายในอุตสาหกรรมเดียวกัน ภัยคุกคามจากผู้แข่งขันรายใหม่อำนาจต่อรองของลูกค้า อำนาจต่อรองของซัพพลายเออร์ และ ภัยคุกคามจากสินค้าทดแทน
ทางด้าน ศาสตร์จีนโบราณ มีปัจจัย 5 ตัวที่นำมาวิเคราะห์เพื่อหาจุดแข็ง และ สร้างความสำเร็จให้ธุรกิจเช่นกัน ได้แก่ ไม้ (Wood) ตัวแทนของการเติบโต และนวัตกรรม ไฟ (Fire) พลังงาน และ แบรนด์ ดิน (Earth) ความมั่นคง และทรัพยากร ทอง (Metal) ประสิทธิภาพ และคุณภาพ สุดท้ายธาตุน้ำ (Water) การปรับตัว และการสื่อสาร
“เพราะการเข้าใจธาตุทั้ง 5 ในธุรกิจ คือการเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และทิศทางการพัฒนาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กร เพราะการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี นอกจากความสวยงามยังเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ” นายรวิ กล่าว
‘หยิน-หยาง’ สมดุลมีผลต่อความสำเร็จ
ในโลกของการทำธุรกิจ นายรวิ กล่าวว่า หลักคิดของหยิน (Yin) และหยาง (Yang) มีผลต่อความสำเร็จที่เกิดขึ้นหากมีการทำอย่างสมดุล โดยหยิน (Yin) โดดเด่นที่การวางแผนและลงมือทำ การวิเคราะห์ และการประหยัด เป็นช่วงของการใช้สมองคิด ไตร่ตรองและเตรียมการ ขณะที่ หยาง (Yang) ว่าด้วยการลงมือทำเช่นกัน รวมทั้งการขยายตัวและการงทุน ดังนั้น การทำความเข้าใจแล้วปรับทุกอย่างให้สมดุล ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจ ส่งผลให้เกิดความสมดุล และ เกิดเป็นพลังงานที่ดีที่สุด
“บางธุรกิจเปิดตัวสินค้าอะไรมาก็ปัง ขณะที่บางธุรกิจเปิดตัวอะไรมาก็ล้มเหลว ตัวอย่างที่กล่าวมานี้ทำให้เห็นว่าจังหวะและช่วงเวลาที่ตัดสินใจทำในสิ่งที่สำคัญมีผลอย่างมากต่อความสำเร็จที่เกิดขึ้น ซึ่งศาสตร์จีนโบราณเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยธุรกิจวิเคราะห์ และ หาจังหวะที่ดีที่สุด พร้อมกับสร้างโอกาสในการประสบความสำเร็จได้มากที่สุด” นายรวิ กล่าว
ธุรกิจสำเร็จเมื่อเจอทีมที่ใช่
การวิเคราะห์ถึงบุคลิกภาพและศักยภาพของแต่ละคนที่เข้ามาร่วมทีม มีผลอย่างมากต่อความสำเร็จของธุรกิจในภาพรวม
นายรวิ กล่าวว่า คนธาตุไม้ มีความคิดสร้างสรรค์ เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์ และชอบการเติบโต อาชีพที่เหมาะสมจะเกี่ยวกับนวัตกรรม การออกแบบ และงานที่ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ส่วนคนธาตุทอง เน้นความมีระเบียบ และใส่ใจในรายละเอียด เหมาะกับงานด้านการเงิน การบริหาร หรือ วิศวกรรม ขณะที่คนธาตุน้ำ บุคลิกเข้ากับคนอื่นได้ง่าย เป็นคนที่ประนีประนอมจึงเหมาะกับงานขาย ประชาสัมพันธ์ คอลเซ็นเตอร์ และงานวิเคราะห์ข้อมูล
สำหรับคนธาตุไฟ โดดเด่นด้านการนำเสนอ เหมาะกับงานการตลาด และโฆษณา สุดท้าย คนธาตุดิน มีความคิดละเอียดและรอบคอบ เหมาะกับงานบริหาร การวางแผนนโยบาย ที่ปรึกษา
การทำความเข้าใจใน 5 ธาตุ คือ ไฟ ดิน ทอง น้ำ และ ไม้ นำไปสู่การวางแผนที่ดี ทั้งการใช้ชีวิต และการทำธุรกิจ
นอกจากการวิเคราะห์จังหวะชีวิตและธุรกิจ การสร้างสมดุลของหยินและหยาง รวมไปถึงการศึกษาธาตุทั้ง 5 แล้ว ฮวงจุ้ย (Feng Shui) การปรับสภาพแวดล้อมและหาชัยภูมิที่เหมาะสม ส่งผลต่อความสำเร็จทั้งชีวิตและการทำงาน รวมถึงการทำธุรกิจ
ตัวอย่าง ฮวงจุ้ยกับการออกแบบพื้นที่ทำงานสมัยใหม่ การจัดวางโต๊ะทำงานในตำแหน่ง ที่เพิ่มประสิทธิภาพงาน การเลือกใช้สีและวัสดุที่สร้างสมดุล รวมไปถึงการจัดพื้นที่ส่วนกลางเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
นายรวิ กล่าวว่า ในยุคใหม่ของชีวิตและธุรกิจ หรือ New Era of Life and Business นี้ เป็นยุคที่คนที่มีความคิดสร้างสรรค์จะได้รับการยอมรับ มีความโดดเด่น และเป็นผู้นำตลาด
ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิต ทั้งการเริ่มต้นธุรกิจ การเปลี่ยนสายงานต้องสอดรับพลังงานที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงชีวิต เพื่อเสริมพลังทุกอย่างไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จที่วางไว้ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567