นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง เปิดเผยว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีรายงานผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษวานร ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 – 13 พฤษภาคม 2566 จำนวน 16 ราย ยังคงพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และเริ่มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นใน คนไทย อายุระหว่าง 20 – 59 ปี ส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มชายรักชาย ประวัติเสี่ยงคือมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ปลอดภัย และสัมผัสผู้ป่วย พฤติกรรมเสี่ยงคือการจัดปาร์ตี้หมู่ในซาวน่า ออนเซ็น และโรงแรม

โรคฝีดาษวานร (MPOX) เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Orthopoxvirus ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกันกับเชื้อไวรัสโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ (Smallpox) สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คน และคนสู่คน การแพร่เชื้อในคนเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจหรือตุ่มหนองบริเวณผิวหนังของผู้ป่วย ผู้ป่วยเริ่มมีอาการหลังได้รับเชื้อประมาณ 5 -21 วัน อาการได้แก่ ไข้ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ และหมดแรง ต่อมาจะมีผื่นตามร่างกาย เช่น ใบหน้า ฝ่ามือฝ่าเท้า อวัยวะเพศ โรคนี้ส่วนใหญ่หายได้เอง สามารถพบผู้ป่วยมีอาการรุนแรงได้ในกลุ่มเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีอาการแทรกซ้อน

นพ.สุทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเน้นย้ำโรคฝีดาษวานรไม่ได้ติดต่อง่าย หากมีการป้องกันที่ถูกต้อง ส่วนใหญ่เชื้ออยู่ที่ตุ่มหนองบริเวณผิวหนังของผู้ป่วย แนะนำประชาชนสามารถป้องกันตนเองโดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีอาการไข้ และมีผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกาย งดการมีเพศสัมพันธ์หรือสัมผัสใกล้ชิด กับคนแปลกหน้าหรือไม่รู้จักประวัติมาก่อน ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว หากมีอาการสงสัย เช่น มีผื่นตามลำตัว เป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ด มีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต สามารถ แจ้งประวัติเสี่ยง และติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อตรวจหาเชื้อได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422