THECA 2025 ชูไทยผงาดฐานผลิต PCB อันดับ 2 ของโลกรองจีน ปั้น ’ฮับอิเล็กทรอนิกส์’ ดันส่งออกพุ่ง 7 แสนล้านบาทต่อปี

   เมื่อ : 08 ส.ค. 2568

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่บทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก เมื่อ บริษัทชั้นนำอุตสาหกรรมแผ่นวงจรพิมพ์ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิต PCB ลำดับที่ 2 รองจากประเทศจีน ตอกย้ำศักยภาพและบทบาทสำคัญของไทยในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีระดับโลก

นายเสวก ประกิจฤทธานนท์ อุปนายกและเลขานุการสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย ประธานศูนย์แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไทย ได้เผยถึง Road Map การผลักดันอุตสาหกรรมแผงวงจรพิมพ์ (Printed Circuit Board – PCB) ให้เป็น "ตัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" และสร้างมูลค่าเพิ่มมหาศาลให้กับประเทศ โดยใช้ เวทีแสดงสินค้าและบริการวงจรอิเล็กทรอนิกส์แห่งเอเชีย หรือ Thailand Electronics Circuit Asia (THECA 2025) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ร่วมกับสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย และสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ฮ่องกง เพื่อผลักดันไทยสู่ศูนย์กลาง PCB และเซมิคอนดักเตอร์แห่งเอเชียอย่างเป็นระบบTHECA 2025 เป็นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนความรู้และห่วงโซ่อุปทานครบวงจร นายเสวก ย้ำว่า งาน THECA 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 20–22 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ณ อาคาร EH99–100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นิทรรศการ แต่เป็น ’แพลตฟอร์มสำคัญ’ ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยี ในการพัฒนาแผงวงจรพิมพ์ขั้นสูง การแลกเปลี่ยนความรู้ และการสร้างเครือข่าย (Networking) การเรียนรู้เกี่ยวกับ เทคโนโลยีใหม่ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ในการผลิต
 

งานนี้ยังเป็นเวทีที่รวบรวมผู้ประกอบการครบทั้ง 3 กลุ่มหลักในห่วงโซ่อุปทาน ได้แก่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ไว้ครบถ้วน และมีผู้ประกอบการชั้นนำจาก 11 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมจัดแสดง เพื่อปูทางสู่การเป็นฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงของภูมิภาคเอเชีย. บีโอไอเชื่อว่ากุญแจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้องอาศัย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและซัพพลายเชน การสนับสนุนนโยบายจากภาครัฐ และการเร่งพัฒนาบุคลากรคุณภาพอย่างเป็นระบบ

 

พลิกโฉมกำลังผลิต: จาก 5% สู่ 15% ของตลาดโลก ด้วยเม็ดเงินลงทุน 2 แสนล้านบาท 
 

จากอดีตที่ประเทศไทยมีสัดส่วนการผลิต PCB เพียงประมาณ 5% ของตลาดโลกมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา การตัดสินใจของสมาพันธ์โลกในการย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทยครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
•    ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทยและกลุ่มซัพพลายเชนได้ร่วมกันสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานใหม่ไปแล้วกว่า 40 แห่ง
•    มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศแล้วกว่า 200000 ล้านบาท.
•    จากเดิมที่ประเทศไทยมีการส่งออกแผงวงจรประมาณ 61000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
•    แผนการในอีก 3 ปีข้างหน้า (ตั้งแต่ปี 2568 และเริ่มผลิตจริงปี 2569): สมาพันธ์โลกมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกแผงวงจรจากประเทศไทยเป็น 15% ของมูลค่าการส่งออกทั่วโลก ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าอีกประมาณ 300000 ล้านบาท นั่นหมายถึง มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นจาก 60000 ล้านบาท เป็น 300000 ล้านบาทต่อปี จากกำลังการผลิตของบริษัท 30-50 แห่งที่จะเริ่มดำเนินการ

 

•    นายเสวกยังกล่าวเพิ่มเติมถึง "เฟส 2" ของการลงทุน ซึ่งโรงงานต่างๆ ได้มีการซื้อพื้นที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว และคาดการณ์ว่า หลังพ้น 3 ปีแรกไปแล้ว ยอดการส่งออกจะเพิ่มขึ้นไปถึง 700000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจไทย
PCB: หัวใจเทคโนโลยีอนาคต – ขยายระบบนิเวศอิเล็กทรอนิกส์ไทยครบวงจร 
แผงวงจรพิมพ์ (PCB) ไม่ได้เป็นเพียงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ธรรมดา แต่เป็น "องค์ประกอบหลัก (Key Component)" ของเครื่องใช้ไฟฟ้าและเทคโนโลยีสมัยใหม่หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น AI Server รถยนต์สมัยใหม่ (Modern Cars) อุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Devices) และดาวเทียม (Satellites). การเข้ามาของผู้ผลิต PCB และการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้ จะนำไปสู่ โอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ผลิตและผู้ประกอบเครื่องใช้และอุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้ในประเทศไทย และจะช่วยส่งเสริมให้ ระบบนิเวศของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล

นายนฤชา ฤชุพันธุ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และเจ้าภาพการจัดงาน THECA 2025 เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 การลงทุนในประเทศไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากถึง 1880 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 1058225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 138 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีการลงทุนรวมกว่า 125786 ล้านบาท จากจำนวน 268 โครงการ ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากนักลงทุนชั้นนำจากสิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในประเทศไทยในฐานะ “จุดยุทธศาสตร์แห่งอาเซียน”

นายพิธาน องค์โฆษิต นายกสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย (THPCA) และประธานจัดงาน THECA 2025 ย้ำบทบาทไทยในการเป็น "ศูนย์กลางการผลิตและนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์แห่งเอเชีย" ผ่านแนวทางยุทธศาสตร์ 3 มิติ ได้แก่ การสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง การเชิญชวนบริษัทชั้นนำทั่วโลกเข้าร่วมงาน THECA 2025 และการยกระดับระบบนิเวศอิเล็กทรอนิกส์ของไทยผ่านความร่วมมือแบบบูรณาการ นายลูเธอร์ หว่อง รองนายกสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ฮ่องกง (HKPCA) และผู้ร่วมจัดงาน THECA 2025  ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ แนวทางการผลิตแบบคาร์บอนต่ำ การปฏิบัติตามหลัก ESG และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็น "เงื่อนไขสำคัญ" ในเวทีโลก สอดคล้องกับ นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต รองผู้อำนวยการ (Chief Operating Officer : COO) และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ผู้สนับสนุนการจัดงาน ที่สนับสนุนให้ THECA 2025 เป็นต้นแบบของ Carbon Neutral Exhibition ตอบโจทย์ Thailand 4.0 และปูทางสู่ Industry 5.0

 

นอกจากนี้ การพัฒนาบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ดร.วุฒินันท์ เจียมศักดิ์ศิริ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวเสริมว่า “Advanced PCB ไม่ได้ต้องการแค่แรงงาน แต่อยากได้ ’นักคิด-นักแก้ปัญหา’ ที่เข้าใจกระบวนการทั้งระบบ” บุคลากรต้อง "เปลี่ยน mindset จากแรงงานผลิต เป็นแรงงานเทคโนโลยี". นายเสวกยังเน้นย้ำว่า "วันนี้เราไม่ขาดโรงงาน แต่เราขาดคนที่พร้อมทำงานในโรงงานเทคโนโลยีสูง". ศูนย์ TECC (Thailand Electronics Circuit Center) หรือศูนย์แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไทย จึงถูกออกแบบมาให้เป็น "สนามฝึกจริง" และเป็น "สะพาน" ที่เชื่อมงานวิจัยจาก TMEC (Thailand Microelectronics Center) เข้ากับระบบการผลิตในโรงงานจริง เพื่อปั้นบุคลากรไทยให้มีทักษะเฉพาะทางพร้อมใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง สร้าง "ฐานผลิตถาวร" ให้ไทยในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก

 

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญ คือการรวมพลังและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นรูปธรรม งาน THECA ปีนี้ จึงได้จัด BOI Forum ขึ้น ในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13.00-16.30 น. ภายใต้หัวข้อ "Building the Future: Investment Policies Shaping Thailand’s Advanced Electronics and Semiconductor Ecosystem" ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ การแสวงหาพันธมิตร และการพัฒนาความเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานอย่างครบวงจร รวมทั้งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทย มีระบบนิเวศอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ และพร้อมที่จะก้าวข้ามจากการเป็นเพียงฐานการผลิต สู่การเป็นผู้นำระบบนิเวศอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจรแห่งเอเชีย 
สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่

 

https://thecaregistrations

.jupinnothai.net/Registration

/ChooseTypeRegis.aspx?codeInv=THECA6